วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

อัปปมัญญา ๔ อย่าง

อัปปมัญญา ๔ อย่าง ๑. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอด ทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่าในที่ทุกสถาน โดยความเป็นตนในสัตว์ทั้งปวง ด้วย ใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียด เบียนอยู่ ฯ ๒. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มีใจประกอบด้วยกรุณา แผ่ไปตลอด ทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน โดยความเป็นตนในสัตว์ทั้งปวง ด้วยใจอันประกอบด้วยกรุณาอันไพบูลย์ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความ เบียดเบียนอยู่ ฯ ๓. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ มีใจประกอบด้วยมุทิตา แผ่ไปตลอด ทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่ก็เหมือนกัน ตามนัยนี้ ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน โดยความเป็นตนในสัตว์ทั้งปวง ด้วยใจอันประกอบด้วยมุทิตาอันไพบูลย์ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความ เบียดเบียนอยู่ ฯ

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน คนเปล่าปิด คนเต็มเปิด คนเปล่าเปิด คนเต็มปิด

 บุคคลที่เป็นคนเปล่าปิด เป็นไฉน
             บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียว
ซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคล
นั้นย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคล
อย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนเปล่าปิด หม้อเปล่าปิดแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
             บุคคลที่เป็นคนเต็มเปิด เป็นไฉน
             บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียว
ซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส บุคคล
นั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่าง
นี้ชื่อว่าเป็นคนเต็มเปิด หม้อเต็มเปิดนั้นแม้เป็นฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
             บุคคลที่เป็นคนเปล่าเปิด เป็นไฉน
             บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียว
ซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงผ้าสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส
บุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคล
อย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนเปล่าเปิด หม้อเปล่าเปิดนั้นแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมย
ฉันนั้น
             บุคคลที่เป็นคนเต็มปิด เป็นไฉน
             บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียว
ซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคล
นั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่าง
นี้ชื่อว่า เป็นคนเต็มปิด หม้อเต็มปิดนั้นแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
             บุคคลเปรียบด้วยหม้อ ๔ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก

http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=36.2&item=117&items=2

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[๑๒๓] อสรพิษ ๔ จำพวก อสรพิษมีพิษแล่นเร็ว แต่ไม่ร้าย อสรพิษมีพิษร้าย แต่ไม่แล่นเร็ว อสรพิษมีพิษแล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย อสรพิษมีพิษไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย [๑๒๔] บุคคลเปรียบด้วยอสรพิษ ๔ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลกฉันนั้น เหมือนกัน บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน บุคคลมีพิษแล่นเร็ว แต่ไม่ร้าย บุคคลมีพิษร้าย แต่ไม่แล่นเร็ว บุคคลมีพิษแล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย บุคคลมีพิษแล่นไม่เร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย บุคคลมีพิษแล่นเร็ว แต่ไม่ร้าย เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมโกรธเนืองๆ แต่ว่าความโกรธของเขานั้นแล ย่อมไม่นอน เนื่องอยู่ตลอดกาลยาวนาน บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า ผู้มีพิษแล่นเร็วแต่ไม่ร้าย อสรพิษที่มีพิษแล่นเร็ว แต่มีพิษไม่ร้ายนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
บุคคลมีพิษร้าย แต่ไม่แล่นเร็ว เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่โกรธเนืองๆ แต่ความโกรธของเขานั้นแล ย่อมนอน เนื่องอยู่ตลอดกาลยาวนาน บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า มีพิษร้ายแต่มีพิษไม่แล่นเร็ว อสรพิษที่มีพิษร้าย แต่มีพิษไม่แล่นเร็ว แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลมีพิษแล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมโกรธเนืองๆ และความโกรธของเขานั้นแล ย่อมนอน เนื่องอยู่ตลอดกาลยาวนาน บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า มีพิษแล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย อสรพิษนี่มีพิษ แล่นเร็วด้วย มีพิษร้ายด้วย แม้ฉันใดบุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลมีพิษไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมไม่โกรธเนืองๆ ทั้งความโกรธของเขานั้น ไม่นอนเนื่อง อยู่ตลอดกาลยาวนาน บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า มีพิษไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย อสรพิษที่มีพิษ ไม่แล่นเร็วด้วย มีพิษไม่ร้ายด้วย แม้ฉันใดบุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลเปรียบด้วยอสรพิษ ๔ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
http://etipitaka.com/read/thai/36/150/?keywords=เงา
บรรดาบุคคลเหล่านั้น บุคคลเปรียบด้วยโคถึก ๔ จำพวก เป็นไฉน [๑๒๑] โคถึก ๔ จำพวก โคดุพวกของตน ไม่ดุพวกอื่น โคดุพวกอื่น ไม่ดุพวกของตน โคดุทั้งพวกของตน ดุทั้งพวกอื่น โคไม่ดุทั้งพวกของตน ไม่ดุทั้งพวกอื่น [๑๒๒] บุคคลเปรียบด้วยโคถึก ๔ จำพวกเหล่านี้ ปรากฏอยู่ในโลกก็ฉันนั้นเหมือนกัน บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน คนดุพวกของตน แต่ไม่ดุพวกอื่น คนดุพวกอื่น แต่ไม่ดุพวกของตน คนดุทั้งพวกของตน ดุทั้งพวกอื่น คนไม่ดุทั้งพวกของตน ไม่ดุทั้งพวกอื่น บุคคลดุพวกของตนไม่ดุพวกอื่น เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ชอบเบียดเบียนบริษัทของตน แต่ไม่เบียดเบียนบริษัทของผู้อื่น บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เปรียบด้วยโคที่ดุแต่ในพวกของตน ไม่ดุพวกอื่น โคถึกที่ดุพวกของตน แต่ไม่ดุพวกอื่น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลดุพวกอื่นไม่ดุพวกของตน เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ชอบเบียดเบียนบริษัทของผู้อื่น แต่ไม่เบียดเบียนบริษัทของตน บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เปรียบด้วยโคที่ดุพวกอื่นแต่ไม่ดุพวกของตน โคถึกที่ดุพวกอื่นแต่ไม่ดุพวก ของตน แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลดุทั้งพวกของตน ดุทั้งพวกอื่น เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เบียดเบียนทั้งบริษัทของตน เบียดเบียนทั้งบริษัทของผู้อื่น บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เปรียบด้วยโคที่ดุทั้งพวกของตน ดุทั้งพวกอื่น โคถึกที่ดุทั้งพวกของตนดุทั้ง พวกอื่น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
บุคคลไม่ดุทั้งพวกของตน ไม่ดุทั้งพวกอื่น เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่เบียดเบียนทั้งบริษัทของตน ไม่เบียดเบียนทั้งบริษัทของคนอื่น บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เปรียบด้วยโคที่ไม่ดุทั้งพวกของตนและพวกอื่น โคถึกที่ไม่ดุทั้งพวกของตน ไม่ดุทั้งพวกอื่น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลเปรียบด้วยโคถึก ๔ จำพวก เหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
http://etipitaka.com/read/thai/36/150/?keywords=เงา


บรรดาบุคคลเหล่านั้น บุคคลเปรียบด้วยห้วงน้ำ ๔ จำพวกเป็นไฉน [๑๑๙] ห้วงน้ำ ๔ ชนิด ห้วงน้ำตื้นเงาลึก ห้วงน้ำลึกเงาตื้น ห้วงน้ำตื้นเงาตื้น ห้วงน้ำลึกเงาลึก [๑๒๐] บุคคลเปรียบด้วยห้วงน้ำ ๔ ชนิด มีปรากฏอยู่ในโลกก็ฉันนั้นเหมือนกัน
บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน คนตื้นเงาลึก คนลึกเงาตื้น คนตื้นเงาตื้น คนลึกเงาลึก คนตื้นเงาลึก เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า คนตื้นเงาลึก ห้วงน้ำตื้นเงาลึกนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
คนลึกเงาตื้น เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า คนลึกเงาตื้น ห้วงน้ำลึกเงาตื้นนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น คนตื้นเงาตื้น เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็น
จริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า คนตื้นเงาตื้น ห้วงน้ำตื้นเงาตื้นนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น คนลึกเงาลึก เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า คนลึกเงาลึก ห้วงน้ำลึกเงาลึกนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลเปรียบด้วยห้วงน้ำ ๔ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
http://etipitaka.com
บรรดาบุคคลเหล่านั้น บุคคลเปรียบด้วยหม้อ ๔ จำพวก เป็นไฉน [๑๑๗] หม้อ ๔ ชนิด หม้อเปล่าปิด หม้อเต็มเปิด หม้อเปล่าเปิด หม้อเต็มปิด [๑๑๘] บุคคลเปรียบด้วยหม้อ ๔ ชนิด เหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลกฉันนั้นเหมือนกัน บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน คนเปล่าปิด คนเต็มเปิด คนเปล่าเปิด คนเต็มปิด บุคคลที่เป็นคนเปล่าปิด เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนเปล่าปิด หม้อเปล่าปิด แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น
บุคคลที่เป็นคนเต็มเปิด เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่าเป็นคนเต็มเปิด หม้อเต็มเปิดนั้น แม้เป็นฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลที่เป็นคนเปล่าเปิด เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงผ้าสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใสบุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนเปล่าเปิด หม้อเปล่าเปิดนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลที่เป็นคนเต็มปิด เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เป็นคนเต็มปิด หม้อเต็มปิดนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มีอุปไมยฉันนั้น บุคคลเปรียบด้วยหม้อ ๔ จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
บุคคล ๔ จำพวก เป็นไฉน บุคคลเช่นมะม่วงดิบ แต่สีเป็นมะม่วงสุก บุคคลเช่นมะม่วงสุก แต่มีสีเป็นมะม่วงดิบ บุคคลเช่นมะม่วงดิบ มีสีก็เป็นมะม่วงดิบ บุคคลเช่นมะม่วงสุก มีสีก็เป็นมะม่วงสุก บุคคลที่เป็นเช่นมะม่วงดิบ แต่มีสีเป็นมะม่วงสุก เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้าเหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร น่าเลื่อมใส บุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เป็นเช่น มะม่วงดิบ แต่มีสีเป็นมะม่วงสุกมะม่วงดิบแต่มีสีเป็นมะม่วงสุกนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มี อุปไมยฉันนั้น บุคคลที่เป็นเช่นมะม่วงสุก แต่มีสีเป็นมะม่วงดิบ เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้าเหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใส บุคคลนั้น รู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า เป็นเช่นมะม่วงสุก แต่มีสีเป็นมะม่วงดิบ
มะม่วงสุกแต่มีสีเป็นมะม่วงดิบนั้นฉันใด บุคคลนี้ก็มี อุปไมยฉันนั้น บุคคลเช่นมะม่วงดิบมีสีก็เป็นมะม่วงดิบ เป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ มีการก้าวไปข้างหน้า ถอยหลังแลตรง เหลียวซ้ายแลขวา คู้เข้า เหยียดออก ทรงสังฆาฏิบาตรและจีวร ไม่น่าเลื่อมใสบุคคลนั้นไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา บุคคลอย่างนี้ชื่อว่าเป็น เช่นมะม่วงดิบ มีสีก็เป็นมะม่วงดิบ มะม่วงดิบมีสีเป็นมะม่วงดิบนั้นแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็มี อุปไมยฉันนั้น บุคคลเช่นมะม่วงสุก มีสีก็เป็นมะม่วงสุก เป็นไฉน